[Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi]
วันที่ 4 พฤษภาคม... ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเครียดขึง มือกำทอนฟาแน่น ฝีเท้าเร่งขึ้นให้อยู่ในความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้ “นายอยู่ที่ไหนกันแน่ ซาวาดะ สึนะโยชิ!”
ผู้เข้าชมรวม
5,221
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi]
“นี่ รีบอร์น...” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลรูปร่างผอมบางเอ่ยขึ้นระหว่างทางเดินไปโรงเรียนในเวลาเช้า “วันนี้ฉันขอไม่ไปโรงเรียนได้รึเปล่า?”
“ไม่ได้!” คำตอบกลับมาจากรีบอร์นครูสอนพิเศษที่มีอายุไม่กี่ขวบแต่ฉลาดล้ำลึกเกินเด็ก “ถ้านายไม่ไปโรงเรียนแล้วจะเป็นหัวหน้าวองโกเล่ที่ดีได้ยังไง”
“คือว่า... พอดี... มีธุระสำคัญนิดหน่อยนะ ปลีกตัวไม่ได้ด้วย ขอร้องล่ะนะ” ร่างบางอ้อนวอนรีบอร์นอย่างเอาเป็นเอาตาย “นี่มันด่วนจริงๆ นะ”
“เอาจริงรึไง?” รีบอร์นหันมามองใบหน้าหวานก็เห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายทำให้ต้องถอนหายใจก่อนจะ...
เปรี้ยง!
ร่างบางล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกับสีหน้าเหวอๆ อย่างงงงวยสุดขีด ไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายทำสักนิดเดียว รู้แต่ว่า... อีกฝ่ายกระโดดถีบหน้าผากเขาอย่างแรงจนล้มลงไปกองกับพื้น... แค่นั้นเอง
มือบางลูบหน้าผากน้อยๆ อย่างเจ็บแปล๊บ ไม่คิดเลยสักนิดว่าไอ้เด็กตัวเปี๊ยกเดียวถึงได้มือหนักเท้าหนักอย่างนี้ แต่ว่าเพราะอยู่ด้วยกันมาค่อนข้างนานถึงได้ไม่โกรธกัน
“จะไปก็ไป แต่แค่วันเดียวเท่านั้นนะ!” อีกฝ่ายตวัดเสียงเหี้ยมก่อนจะแว๊บหายไปกับกำแพงที่พี่ท่านทำเป็นทางลับไว้ทั่วเมืองอย่างน่าอนาจในสายตาของสีนะ “ก็วันนี้มันวันที่...”
ร่างสูงยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ทางเข้าของโรงเรียนนามิโมริอย่างหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะแม้ตอนนี้โรงเรียนจะเข้าไปแล้วชั่วโมงครึ่งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างบอบบาง ผมสีน้ำตาล ตัวเล็กๆ นั้นจะโผล่ศีรษะมาที่นี่เลยแม้แต่น้อย
“อ้าว? ฮิบาริ” ยามาโมโตะเข้ามาทักอย่างสนิทสนม (ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเขาเลยสักนิด) “รอสึนะอยู่รึไง?”
“ใครจะไปรอเจ้าสัตว์กินพืชอ่อนแอนั่นกัน” ร่างสูงตวัดเสียงกลับอย่างอารมณ์ไม่ดีก่อนจะปรายตามองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งอย่างคนเล่นกีฬาตรงหน้า “ไม่เข้าเรียนรึไง?”
“อ้อ พอดีว่าอาจารย์เข้าโรงพยาบาลน่ะ คาบนี้ก็เลยฟรี” ร่างโปร่งตรงหน้ายักไหล่เล็กน้อย “แต่ฉันก็ชักกังวลเรื่องสึนะขึ้นมาซะแล้วสิ ปกติถึงจะมาสายก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยขาดนี่นา แล้วอีกอย่าง...”
ยามาโมโตะเหลียวมองไปทางห้องน้ำชายใกล้ๆ ที่มีเสียงน้ำดังอย่างที่คนเปิดไม่คิดจะปิด
“โกคุเทระเองก็เริ่มจะคลั่งแล้วซะด้วยสิ” ร่างโปร่งพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกขึ้นได้ “ยังไง... ฉันก็ขอไปปราบโกคุเทระในวิธีของฉันล่ะนะ”
“เออ!” ร่างสูงกระแทกเสียงก่อนจะตวัดสายตาไปมองประตูทางเข้าที่ดูยังไงก็ยังไม่มีวี่แววว่าร่างบอบบางนั้นจะมาเลยแม้แต่น้อยทำเอาอดเป็นกังวลไม่ได้
“หาสึนะอยู่รึไง?” ร่างสูงสะดุ้งเฮือกหันกลับไปมองบนต้นไม้ที่มีเด็กชายในสูทแถมห้อยจุกนมสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอัลโกบาเลโน่อีกด้วย
“เจ้าหนู?”
“ใช่ ฉันเองแหละ” รีบอร์นพยักหน้ารับนิดๆ ก่อนจะพูดต่อ “ฉันว่า... ถึงวันนี้นายจะรอไปทั้งวันสึนะก็คงไม่มาหรอก”
“ทำไม?” เสียงทุ้มถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “ทำไมเจ้าสัตว์กินพืชอ่อนแอนั่นถึงจะไม่มา”
“นั่นสินะ รู้แต่ว่าวันนี้คงจะมาไม่ได้ทั้งวันนั้นแหละ ก็วันนี้น่ะ... มันเป็นวันที่ 4 พฤษภาคม นี่นา” รีบอร์นพูดจบก่อนจะแว๊บหายไปกับต้นไม้อย่างที่ทำเป็นประจำทิ้งไว้เพียงร่างสูงที่ยืนครุ่นคิดอย่างสงสัย
วันที่ 4 พฤษภาคม...
วันที่กุบไลข่านขึ้นเป็นผู้นำจักรวรรดิมองโกล... คงไม่ใช่หรอกมั่ง
วันที่กองทัพพันธมิตรปลดปล่อยราชอาณาจักรเดนมาร์ก... หมอนั่นคงไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก
หรือว่าเป็นวันสถาปนาสภาของยุโรป... จะรู้ไปถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?
วันเกิดคาร์ล มาร์กซนักปรัชญาชาวเยอรมัน... ก็คงจะไม่ใช่อีกนั่นแหละ
วันที่นโปเลียน โบนาปาร์ตเสียชีวิตงั้นเหรอ... จะใช่เหรอ?
จะว่าไปหรือว่าจะเป็นวันเด็กของเกาหลีใต้นะ... อาจจะใช่ก็ได้แฮะ
เฮ้อ~ ยังไงก็นึกไม่ออกจริงๆ สิน่า...
ร่างสูงมองเหม่อไปบนท้องฟ้าที่เงียบสงบ ก่อนจะทำใจว่าวันนี้ก็คงจะไม่ได้เจอจริงๆ แล้วค่อยๆ เดินไปจนถึงดาดฟ้าของตึก ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับพื้นมองไปบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย แต่ไม่อาจทำใจให้สงบลงได้ มันเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับตัวร่างบางที่ปกติมักจะมาทำท่าทางเบื่อหน่ายอยู่ในโรงเรียนเสมอๆ
ไม่ไหว!
ร่างสูงลุกพรวดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ชักสีหน้าเล็กน้อยอย่างรำคาญตัวเองเพราะทั้งๆ ที่ห่วงร่างบอบบางนั่นนักแต่กลับไม่กล้าทำใจที่จะออกจากโรงเรียนไปเพื่อตามหา
ตอนนี้... เพียงแค่อยากสัมผัสร่างบอบบางนั่น... อยากได้กลิ่นกายแสนหอมหวานนั่น... อยากจ้องดวงตาใสที่สะกดทุกคนได้นั่น... อยากกินริมฝีปากที่หอมหวานแต่ราวกับยาพิษที่ไม่มีวันเลิกไปจากมันได้นั่น... อยากแตะเส้นผมอ่อนนุ่มที่ปลิวไสวยามเมื่อลมพัดนั่น...
“ถ้าคิดถึงขนาดนั้นก็ไปตามหาซะเลยสิ” เสียงที่คุ้นเคยเพราะต่อสู้กันมาเกือบอาทิตย์ดังขึ้นไม่ไกลนักทำให้ฮิบาริลุกพรวดขึ้นมองไอ้คนที่ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่สักที
“ดีโน่?” เสียงทุ้มของฮิบาริเอ่ยชื่อคนตรงหน้าเบาๆ ราวกับย้ำเตือนให้ตัวเองแน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นใครกันแน่
“คิดว่าใครล่ะ ไปตามหาสึนะสักทีเหอะ น่ารำคาญชะมัดสีหน้าของนายแบบนั้นน่ะฮิบาริ” ชายหนุ่มร่างโปร่งผมทองประกายบอกพร้อมกับยิ้มนิดๆ โดยที่ข้างหลังมีลูกน้องคนสนิทคอยติดตามมาด้วย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย” ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วมุ่น “ฉันจะไปหรือไม่ไปมันก็เรื่องของฉัน”
“อ้อ แล้วถ้าฉันจะบอกว่าสึนะตอนนี้กำลังโดนไล่ต้อนอยู่ล่ะ นายจะทำยังไง?” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎบนริมฝีปากเรียวของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งอย่างที่หาดูได้ยาก
“...!!!”
“พอดีเมื่อกี้นี้รีบอร์นบอกว่าสึนะกำลังโดนไล่ต้อนอยู่ ส่วนตัวรีบอร์นเองนั้นติดธุระอยู่ปลีกตัวมาไม่ได้ ฉันเองก็เข้าไปยุ่งกับเรื่องวองโกเล่มากนักก็ไม่ดีซะด้วย...” พูดยังไม่ทันจบก็ต้องผงะถอยไปจากหน้าประตูทางลง (เข้า) ของดาดฟ้าเพราะร่างสูง (ที่เตี้ยกว่าเขา) วิ่งพรวดผ่านดีโน่ไปอย่างรวดเร็ว
“ไปแหย่เขาแบบนี้มันไม่ดีเท่าไหร่เลยนะครับ บอส”
คำเปรยขึ้นมาของลูกน้องคนสนิททำให้ดีโน่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“คนอย่างฮิบาริน่ะ มันต้องให้กระตุ้นแล้วค่อยดูผลทีหลัง หึๆ ฉันอยากจะเห็นจังเลยว่าถ้าเจอว่าสึนะกำลังอยู่ที่ ‘นั่น’ จะรู้สึกยังไง” เสียงหัวเราะอย่างชอบใจของดีโน่ก้องดาดฟ้าพาให้นักเรียนแปลกใจ เพราะนั่นเป็นที่ส่วนตัวของฮิบาริ เคียวยะ ผู้คุมกฎที่เฮี้ยบที่สุดในโรงเรียน
“แฮ่กๆ” ฮิบาริหอบหายใจน้อยเพราะเหนื่อยจากการวิ่งร่อนไปทั่วทั้งเมืองเพื่อตามหาร่างบอบบางนั่น แต่กลับไม่พบเลยแม้แต่เงาของสึนะให้เห็น “นี่... สึนะอยู่ไหน...”
“ฮิๆๆ ฮิบาริ เคียวยะ” เสียงสยองดังขึ้นจากในความมืดทำให้ร่างสูงหันขวับไปมองทันที “การที่ได้พบกับนายในสภาพแบบนี้นี่น่าปลื้มใจซะจริงนะ”
“โรคุโด มุคุโร่” สีหน้าของฮิบาริเริ่มฉายแววเคียดแค้นก่อนที่ทอนฟาจะปรากฏอยู่ในมือ
“อา... ผมว่าอย่าดีกว่านะครับ เพราะว่าผมจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าผมจะเข้าสิงซาวาดะ สึนะโยชิคุงเมื่อไหร่ ถ้าหากคุณคิดจะโจมตีใส่ผมอย่างนี้...”
“แก...” ฮิบาริถึงกับกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ
“อ๋อ ผมขอบอกไว้เลยนะครับว่าซาวาดะ สึนะโยชิคุงตอนนี้กำลังอยู่ในเมืองนามิโมรินี่แหละ แถมยังอยู่ในสถานที่ที่มีคนมากมายอยู่ด้วยสิ” แล้วเสียงหัวเราะอย่างน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่ายก็ค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับร่างของมุคุโร่ที่เลือนรางลงไป
“หน็อย...” ร่างสูงเริ่มต้นออกวิ่งอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
จิตใจปั่นป่วนอย่างรุนแรงด้วยความกังวลอย่างถึงที่สุด ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเครียดขึง มือกำทอนฟาแน่น ฝีเท้าเร่งขึ้นให้อยู่ในความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้
“นายอยู่ที่ไหนกันแน่ ซาวาดะ สึนะโยชิ!”
“พวกนายคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“หึๆ ก็เซอร์ไพร์ไงล่ะ”
“ทำไม...”
“ก็วันนี้มันวันที่ 4 พฤษภาคมนี่นา”
“แฮ่ก... แฮ่ก...” ฮิบาริหอบหายใจระรัวยืนมองโรงเรียนนามิโมริซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่เขาคิดจะมาตรวจสอบ แต่เพราะว่าไม่มีที่ไหนที่น่าจะเป็นไปได้อีกแล้วนอกจากที่นี่ “ที่นี่... งั้นรึ?”
ดวงตาคมปราดมองท้องฟ้าแล้วคาดว่าน่าจะราวๆ เกือบเที่ยงคืนได้แล้ว (ถึกเกินคน วิ่งตามหาตั้งแต่เช้ายันเกือบเที่ยงคืน) ดวงตาคมเริ่มปรือลงเพราะความเหนื่อยล้า
“หวา~!!”
ตุ้บ! โครม!
เสียงหวานดังขึ้นก่อนจะตามมาติดๆ ด้วยเสียงโครมครามอย่างที่ฮิบาริไม่อยากจะจิตนาการต่อว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับร่างบอบบางนั้นกันแน่
“ถ้ารู้ว่าเป็นแผนของใครล่ะก็... พ่อจะขย้ำมันให้เละ!”
ร่างสูงรีบพุ่งตรงไปยังห้องที่อยู่ชั้นบนสุดที่ดูแล้วคุ้นแสนคุ้นเหลือเกินแต่ฮิบาริก็ไม่ได้สนใจรีบเปิดประตูที่อยู่ตรงหน้าทันที
โครม!
“อ๋า~!” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับแรงกระชากประตูที่เปิดออกเมื่อครู่ให้ปิดลงอีกครั้งอย่างรวดเร็วทำให้ร่างสูงที่เกือบจะมองเห็นแต่ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรทำให้ยิ่งออกแรงให้มากขึ้นอีก
ประตูสั่นกึกๆ เบาๆ เพราะแรงของคนที่ดึงประตูให้ปิดใกล้จะหมดแต่แรงของคนที่ตั้งใจจะเปิดยิ่งเพิ่มขึ้นเพราะความเป็นห่วงคนที่ตัวเองว่าอยู่เสมอว่าเป็น สัตว์กินพืชอ่อนแอ
ก๊อง~ ก๊อง~
เสียงดังเตือนว่าผ่านเที่ยงคืนเรียบร้อยแล้วทำให้แรงที่ต้านประตูไว้หายไปและร่างสูงก็เปิดประตูได้สักที
ภายในห้องมืดสนิททำให้ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นลงเพราะเมื่อกี้ที่เปิดแว๊บๆ ยังเห็นแสงไฟจากในห้องอยู่เลย ก่อนจะสะดุ้งพรวดหันไปอีกทางที่มีแสงไฟเล็กๆ ปรากฏขึ้น
“Happy birth day to you. Happy birth day to you. Happy birth day to my dear. Happy birth day to you.” ใบหน้าหวานปรากฎขึ้นภายใต้แสงสว่างเพียงเล็กน้อยของเทียนไขบนเค้กในมือของร่างบาง “สุขสันต์วันเกิดครับ คุณฮิบาริ”
“นี่นาย...” ร่างสูงถึงกับนิ่งค้างไปต่อไม่ถูก ทำให้ใบหน้าหวานของสึนะแหยลงเพราะกลัวว่าจะทำไมถูกใจ
“ไม่พอใจรึเปล่าครับ...?”
“เปล่าๆ แต่นี่นายเป็นคนวางแผนทั้งหมดเลยเหรอ?” เสียงทุ้มถามอย่างไม่แน่ใจว่าจะโกรธหรือจะดีใจกับสิ่งที่ร่างบอบบางตรงหน้าทำดี
“เอ๋?! ทำ... ทำอะไรเหรอครับ?” ใบหน้าหวานเอียงหน่อยๆ อย่างไม่เข้าใจ “วันนี้ผมแค่มาเตรียมที่นี่เฉยๆ แล้วกะว่าจะโทรไปขอให้คุณฮิบาริมาหาสักหน่อยก่อนจะเที่ยงคืน แต่นี่คุณฮิบาริมาแบบนี้ทำเอาผมตกใจแทบแย่”
“หมายความว่านายไม่ได้ทำ??”
“เอ๋ ทำอะไรเหรอครับ?” ใบหน้าหวานมุ่นลงเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ “หรือว่ารีบอร์นคิดจะทำอะไรอีกแล้ว??”
“ฉันก็กำลังสงสัยอยู่” ฮิบาริตอบกลับพร้อมกับขยี้หัวร่างบาง
“ผมมาจัดห้องให้คุณฮิบาริน่ะครับ ตั้งใจว่าจะเป็นคนแรกที่พูดคำว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’ กับคุณฮิบาริให้ได้น่ะครับ” ใบหน้าหวานมีประกายแจ่มใสแต่ก็ติดจะมีหยาดเหงื่อจากการที่จัดห้องทั้งห้องคนเดียวทั้งวัน “อ๊ะ เดี๋ยวผมไปเปิดไฟนะครับ”
พรึ่บ
ร่างสูงหรี่ตาหน่อยๆ เพราะว่าปรับแสงไม่ทันก่อนจะเปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างเพราะการตกแต่งห้องขนาดนี้คนเดียวถือว่ายากมากเพราะมีทั้งสายรุ้ง และอะไรอีกสารพัด (บรรยายไม่เป็นอ่ะ จิตนาการเอาเองเน้อ)
“สึนะ” เสียงเรียกดังขึ้นทำให้ร่างบางหันไปหาก่อนที่อีกฝ่ายจะแย้งเค้กที่อยู่ในมือบางไปวางไว้บนโต๊ะ
ร่างสูงพึ่งสังเกตว่าห้องนี้คือห้องรับแขกของเขาเองนั่นแหละ
พรึ่บ
“อ๊ะ” ร่างบางร้องขึ้นเพราะมือหนาของคนตรงหน้ากดปิดสวิตช์ไฟให้มืดลง “คะ... คุณฮิบาริ”
“ชอบใจนะ” มือหนาตวัดเอาร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับไปบนริมฝีปากหอมนุ่มของอีกฝ่าย
“อื้อ~” ร่างบางครางอือในลำคอเพราะความหอมหวานจากรสจูบและลิ้นร้อนของอีกฝ่ายที่เข้ามาเกี่ยวกระวัดภายในโพรงปากของสึนะอย่างเร่าร้อน “พะ... พอก่อนครับ”
“นายทำให้ฉันเป็นห่วง”
“ขอโทษครับ”
“นายทำให้ฉันต้องเหนื่อยตามหานายแทบทั้งเมือง”
“ขอโทษครับ”
“นายทำให้ฉันต้องโดนพวกรีบอร์นหลอก”
“ขอโทษครับ”
“นาย... ทำให้ฉันรักนายมากขึ้นไปอีก”
“ขอโท... ห๊า~! อะไรนะครับ” ใบหน้าหวานแดงเถือกถามกลับอย่างไม่แน่ใจ มือไม้สั่นระริกวางไม่ถูกพาลเกะกะไปหมด ดวงตาสวยเสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตาด้วย
“ฉันบอกว่า...”
“หวาๆๆๆ ไม่เอานะครับ อย่าพูดนะครับ”
“เมื่อกี้ฉันบอกไปว่า...”
“พอเถอะครับ คุณฮิบาริ” มือบางปิดหน้าตัวเองอย่างทนไม่ไหว เขินจะตายอยู่แล้ว
“ฉันรักนาย”
เป็นไงมั่งเอ่ย???
ช่วยเม้นบอก ให้กำลังใจกันหน่อยน้า
+_+ แต่ถ้าจะให้ดีก็แวะไปอ่านเรื่องอื่นของเรามั่งน้า~
ผลงานอื่นๆ ของ @-Wizard-@ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ @-Wizard-@
ความคิดเห็น