[Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi] - [Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi] นิยาย [Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi] : Dek-D.com - Writer

    [Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi]

    วันที่ 4 พฤษภาคม... ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเครียดขึง มือกำทอนฟาแน่น ฝีเท้าเร่งขึ้นให้อยู่ในความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้ “นายอยู่ที่ไหนกันแน่ ซาวาดะ สึนะโยชิ!”

    ผู้เข้าชมรวม

    5,221

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    5.22K

    ความคิดเห็น


    64

    คนติดตาม


    36
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 เม.ย. 54 / 20:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [Fic Reborn] Happy Birth Day ~HiBaRi Chan~ (1827) [Yaoi]

            นี่ รีบอร์น... เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลรูปร่างผอมบางเอ่ยขึ้นระหว่างทางเดินไปโรงเรียนในเวลาเช้า วันนี้ฉันขอไม่ไปโรงเรียนได้รึเปล่า?

            ไม่ได้!” คำตอบกลับมาจากรีบอร์นครูสอนพิเศษที่มีอายุไม่กี่ขวบแต่ฉลาดล้ำลึกเกินเด็ก ถ้านายไม่ไปโรงเรียนแล้วจะเป็นหัวหน้าวองโกเล่ที่ดีได้ยังไง

            คือว่า... พอดี... มีธุระสำคัญนิดหน่อยนะ ปลีกตัวไม่ได้ด้วย ขอร้องล่ะนะ ร่างบางอ้อนวอนรีบอร์นอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่มันด่วนจริงๆ นะ

            เอาจริงรึไง? รีบอร์นหันมามองใบหน้าหวานก็เห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายทำให้ต้องถอนหายใจก่อนจะ...

            เปรี้ยง!

            ร่างบางล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกับสีหน้าเหวอๆ อย่างงงงวยสุดขีด ไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายทำสักนิดเดียว รู้แต่ว่า... อีกฝ่ายกระโดดถีบหน้าผากเขาอย่างแรงจนล้มลงไปกองกับพื้น... แค่นั้นเอง

            มือบางลูบหน้าผากน้อยๆ อย่างเจ็บแปล๊บ ไม่คิดเลยสักนิดว่าไอ้เด็กตัวเปี๊ยกเดียวถึงได้มือหนักเท้าหนักอย่างนี้ แต่ว่าเพราะอยู่ด้วยกันมาค่อนข้างนานถึงได้ไม่โกรธกัน

            จะไปก็ไป แต่แค่วันเดียวเท่านั้นนะ!” อีกฝ่ายตวัดเสียงเหี้ยมก่อนจะแว๊บหายไปกับกำแพงที่พี่ท่านทำเป็นทางลับไว้ทั่วเมืองอย่างน่าอนาจในสายตาของสีนะ ก็วันนี้มันวันที่...

       

            ร่างสูงยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ทางเข้าของโรงเรียนนามิโมริอย่างหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะแม้ตอนนี้โรงเรียนจะเข้าไปแล้วชั่วโมงครึ่งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างบอบบาง ผมสีน้ำตาล ตัวเล็กๆ นั้นจะโผล่ศีรษะมาที่นี่เลยแม้แต่น้อย

            อ้าว? ฮิบาริ ยามาโมโตะเข้ามาทักอย่างสนิทสนม (ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเขาเลยสักนิด) รอสึนะอยู่รึไง?

            ใครจะไปรอเจ้าสัตว์กินพืชอ่อนแอนั่นกัน ร่างสูงตวัดเสียงกลับอย่างอารมณ์ไม่ดีก่อนจะปรายตามองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งอย่างคนเล่นกีฬาตรงหน้า ไม่เข้าเรียนรึไง?

            อ้อ พอดีว่าอาจารย์เข้าโรงพยาบาลน่ะ คาบนี้ก็เลยฟรี ร่างโปร่งตรงหน้ายักไหล่เล็กน้อย แต่ฉันก็ชักกังวลเรื่องสึนะขึ้นมาซะแล้วสิ ปกติถึงจะมาสายก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยขาดนี่นา แล้วอีกอย่าง...

            ยามาโมโตะเหลียวมองไปทางห้องน้ำชายใกล้ๆ ที่มีเสียงน้ำดังอย่างที่คนเปิดไม่คิดจะปิด

            โกคุเทระเองก็เริ่มจะคลั่งแล้วซะด้วยสิ ร่างโปร่งพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกขึ้นได้ ยังไง... ฉันก็ขอไปปราบโกคุเทระในวิธีของฉันล่ะนะ

            เออ!” ร่างสูงกระแทกเสียงก่อนจะตวัดสายตาไปมองประตูทางเข้าที่ดูยังไงก็ยังไม่มีวี่แววว่าร่างบอบบางนั้นจะมาเลยแม้แต่น้อยทำเอาอดเป็นกังวลไม่ได้

            หาสึนะอยู่รึไง? ร่างสูงสะดุ้งเฮือกหันกลับไปมองบนต้นไม้ที่มีเด็กชายในสูทแถมห้อยจุกนมสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอัลโกบาเลโน่อีกด้วย

            เจ้าหนู?

            ใช่ ฉันเองแหละ รีบอร์นพยักหน้ารับนิดๆ ก่อนจะพูดต่อ ฉันว่า... ถึงวันนี้นายจะรอไปทั้งวันสึนะก็คงไม่มาหรอก

            ทำไม? เสียงทุ้มถามอย่างสงสัยใคร่รู้ ทำไมเจ้าสัตว์กินพืชอ่อนแอนั่นถึงจะไม่มา

            นั่นสินะ รู้แต่ว่าวันนี้คงจะมาไม่ได้ทั้งวันนั้นแหละ ก็วันนี้น่ะ... มันเป็นวันที่ 4 พฤษภาคม นี่นา รีบอร์นพูดจบก่อนจะแว๊บหายไปกับต้นไม้อย่างที่ทำเป็นประจำทิ้งไว้เพียงร่างสูงที่ยืนครุ่นคิดอย่างสงสัย

            วันที่ 4 พฤษภาคม...

            วันที่กุบไลข่านขึ้นเป็นผู้นำจักรวรรดิมองโกล... คงไม่ใช่หรอกมั่ง

            วันที่กองทัพพันธมิตรปลดปล่อยราชอาณาจักรเดนมาร์ก... หมอนั่นคงไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก

            หรือว่าเป็นวันสถาปนาสภาของยุโรป... จะรู้ไปถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?

            วันเกิดคาร์ล มาร์กซนักปรัชญาชาวเยอรมัน... ก็คงจะไม่ใช่อีกนั่นแหละ

            วันที่นโปเลียน โบนาปาร์ตเสียชีวิตงั้นเหรอ... จะใช่เหรอ?

            จะว่าไปหรือว่าจะเป็นวันเด็กของเกาหลีใต้นะ... อาจจะใช่ก็ได้แฮะ

            เฮ้อ~ ยังไงก็นึกไม่ออกจริงๆ สิน่า...

            ร่างสูงมองเหม่อไปบนท้องฟ้าที่เงียบสงบ ก่อนจะทำใจว่าวันนี้ก็คงจะไม่ได้เจอจริงๆ แล้วค่อยๆ เดินไปจนถึงดาดฟ้าของตึก ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับพื้นมองไปบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย แต่ไม่อาจทำใจให้สงบลงได้ มันเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับตัวร่างบางที่ปกติมักจะมาทำท่าทางเบื่อหน่ายอยู่ในโรงเรียนเสมอๆ

            ไม่ไหว!

            ร่างสูงลุกพรวดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ชักสีหน้าเล็กน้อยอย่างรำคาญตัวเองเพราะทั้งๆ ที่ห่วงร่างบอบบางนั่นนักแต่กลับไม่กล้าทำใจที่จะออกจากโรงเรียนไปเพื่อตามหา

            ตอนนี้... เพียงแค่อยากสัมผัสร่างบอบบางนั่น... อยากได้กลิ่นกายแสนหอมหวานนั่น... อยากจ้องดวงตาใสที่สะกดทุกคนได้นั่น... อยากกินริมฝีปากที่หอมหวานแต่ราวกับยาพิษที่ไม่มีวันเลิกไปจากมันได้นั่น... อยากแตะเส้นผมอ่อนนุ่มที่ปลิวไสวยามเมื่อลมพัดนั่น...

            ถ้าคิดถึงขนาดนั้นก็ไปตามหาซะเลยสิ เสียงที่คุ้นเคยเพราะต่อสู้กันมาเกือบอาทิตย์ดังขึ้นไม่ไกลนักทำให้ฮิบาริลุกพรวดขึ้นมองไอ้คนที่ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่สักที

            ดีโน่? เสียงทุ้มของฮิบาริเอ่ยชื่อคนตรงหน้าเบาๆ ราวกับย้ำเตือนให้ตัวเองแน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นใครกันแน่

            คิดว่าใครล่ะ ไปตามหาสึนะสักทีเหอะ น่ารำคาญชะมัดสีหน้าของนายแบบนั้นน่ะฮิบาริ ชายหนุ่มร่างโปร่งผมทองประกายบอกพร้อมกับยิ้มนิดๆ โดยที่ข้างหลังมีลูกน้องคนสนิทคอยติดตามมาด้วย

            แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วมุ่น ฉันจะไปหรือไม่ไปมันก็เรื่องของฉัน

            อ้อ แล้วถ้าฉันจะบอกว่าสึนะตอนนี้กำลังโดนไล่ต้อนอยู่ล่ะ นายจะทำยังไง? รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎบนริมฝีปากเรียวของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งอย่างที่หาดูได้ยาก

            ...!!!”

            พอดีเมื่อกี้นี้รีบอร์นบอกว่าสึนะกำลังโดนไล่ต้อนอยู่ ส่วนตัวรีบอร์นเองนั้นติดธุระอยู่ปลีกตัวมาไม่ได้ ฉันเองก็เข้าไปยุ่งกับเรื่องวองโกเล่มากนักก็ไม่ดีซะด้วย... พูดยังไม่ทันจบก็ต้องผงะถอยไปจากหน้าประตูทางลง (เข้า) ของดาดฟ้าเพราะร่างสูง (ที่เตี้ยกว่าเขา) วิ่งพรวดผ่านดีโน่ไปอย่างรวดเร็ว

            ไปแหย่เขาแบบนี้มันไม่ดีเท่าไหร่เลยนะครับ บอส

            คำเปรยขึ้นมาของลูกน้องคนสนิททำให้ดีโน่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

            คนอย่างฮิบาริน่ะ มันต้องให้กระตุ้นแล้วค่อยดูผลทีหลัง หึๆ ฉันอยากจะเห็นจังเลยว่าถ้าเจอว่าสึนะกำลังอยู่ที่ นั่นจะรู้สึกยังไง เสียงหัวเราะอย่างชอบใจของดีโน่ก้องดาดฟ้าพาให้นักเรียนแปลกใจ เพราะนั่นเป็นที่ส่วนตัวของฮิบาริ เคียวยะ ผู้คุมกฎที่เฮี้ยบที่สุดในโรงเรียน

       

            แฮ่กๆ ฮิบาริหอบหายใจน้อยเพราะเหนื่อยจากการวิ่งร่อนไปทั่วทั้งเมืองเพื่อตามหาร่างบอบบางนั่น แต่กลับไม่พบเลยแม้แต่เงาของสึนะให้เห็น นี่... สึนะอยู่ไหน...

            ฮิๆๆ ฮิบาริ เคียวยะ เสียงสยองดังขึ้นจากในความมืดทำให้ร่างสูงหันขวับไปมองทันที การที่ได้พบกับนายในสภาพแบบนี้นี่น่าปลื้มใจซะจริงนะ

            โรคุโด มุคุโร่ สีหน้าของฮิบาริเริ่มฉายแววเคียดแค้นก่อนที่ทอนฟาจะปรากฏอยู่ในมือ

            อา... ผมว่าอย่าดีกว่านะครับ เพราะว่าผมจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าผมจะเข้าสิงซาวาดะ สึนะโยชิคุงเมื่อไหร่ ถ้าหากคุณคิดจะโจมตีใส่ผมอย่างนี้...

            แก... ฮิบาริถึงกับกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ

            อ๋อ ผมขอบอกไว้เลยนะครับว่าซาวาดะ สึนะโยชิคุงตอนนี้กำลังอยู่ในเมืองนามิโมรินี่แหละ แถมยังอยู่ในสถานที่ที่มีคนมากมายอยู่ด้วยสิ แล้วเสียงหัวเราะอย่างน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่ายก็ค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับร่างของมุคุโร่ที่เลือนรางลงไป

            หน็อย... ร่างสูงเริ่มต้นออกวิ่งอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

            จิตใจปั่นป่วนอย่างรุนแรงด้วยความกังวลอย่างถึงที่สุด ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเครียดขึง มือกำทอนฟาแน่น ฝีเท้าเร่งขึ้นให้อยู่ในความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้

            นายอยู่ที่ไหนกันแน่ ซาวาดะ สึนะโยชิ!”

       

            พวกนายคิดจะทำอะไรกันแน่?

            หึๆ ก็เซอร์ไพร์ไงล่ะ

            ทำไม...

            ก็วันนี้มันวันที่ 4 พฤษภาคมนี่นา

       

            แฮ่ก... แฮ่ก... ฮิบาริหอบหายใจระรัวยืนมองโรงเรียนนามิโมริซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่เขาคิดจะมาตรวจสอบ แต่เพราะว่าไม่มีที่ไหนที่น่าจะเป็นไปได้อีกแล้วนอกจากที่นี่ ที่นี่... งั้นรึ?

            ดวงตาคมปราดมองท้องฟ้าแล้วคาดว่าน่าจะราวๆ เกือบเที่ยงคืนได้แล้ว (ถึกเกินคน วิ่งตามหาตั้งแต่เช้ายันเกือบเที่ยงคืน) ดวงตาคมเริ่มปรือลงเพราะความเหนื่อยล้า

            หวา~!!”

            ตุ้บ! โครม!

            เสียงหวานดังขึ้นก่อนจะตามมาติดๆ ด้วยเสียงโครมครามอย่างที่ฮิบาริไม่อยากจะจิตนาการต่อว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับร่างบอบบางนั้นกันแน่

            ถ้ารู้ว่าเป็นแผนของใครล่ะก็... พ่อจะขย้ำมันให้เละ!”

            ร่างสูงรีบพุ่งตรงไปยังห้องที่อยู่ชั้นบนสุดที่ดูแล้วคุ้นแสนคุ้นเหลือเกินแต่ฮิบาริก็ไม่ได้สนใจรีบเปิดประตูที่อยู่ตรงหน้าทันที

            โครม!

            อ๋า~!” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับแรงกระชากประตูที่เปิดออกเมื่อครู่ให้ปิดลงอีกครั้งอย่างรวดเร็วทำให้ร่างสูงที่เกือบจะมองเห็นแต่ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรทำให้ยิ่งออกแรงให้มากขึ้นอีก

            ประตูสั่นกึกๆ เบาๆ เพราะแรงของคนที่ดึงประตูให้ปิดใกล้จะหมดแต่แรงของคนที่ตั้งใจจะเปิดยิ่งเพิ่มขึ้นเพราะความเป็นห่วงคนที่ตัวเองว่าอยู่เสมอว่าเป็น สัตว์กินพืชอ่อนแอ

            ก๊อง~ ก๊อง~

            เสียงดังเตือนว่าผ่านเที่ยงคืนเรียบร้อยแล้วทำให้แรงที่ต้านประตูไว้หายไปและร่างสูงก็เปิดประตูได้สักที

            ภายในห้องมืดสนิททำให้ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นลงเพราะเมื่อกี้ที่เปิดแว๊บๆ ยังเห็นแสงไฟจากในห้องอยู่เลย ก่อนจะสะดุ้งพรวดหันไปอีกทางที่มีแสงไฟเล็กๆ ปรากฏขึ้น

            “Happy birth day to you. Happy birth day to you. Happy birth day to my dear. Happy birth day to you.” ใบหน้าหวานปรากฎขึ้นภายใต้แสงสว่างเพียงเล็กน้อยของเทียนไขบนเค้กในมือของร่างบาง สุขสันต์วันเกิดครับ คุณฮิบาริ

            นี่นาย... ร่างสูงถึงกับนิ่งค้างไปต่อไม่ถูก ทำให้ใบหน้าหวานของสึนะแหยลงเพราะกลัวว่าจะทำไมถูกใจ

            ไม่พอใจรึเปล่าครับ...?

            เปล่าๆ แต่นี่นายเป็นคนวางแผนทั้งหมดเลยเหรอ? เสียงทุ้มถามอย่างไม่แน่ใจว่าจะโกรธหรือจะดีใจกับสิ่งที่ร่างบอบบางตรงหน้าทำดี

            เอ๋?! ทำ... ทำอะไรเหรอครับ? ใบหน้าหวานเอียงหน่อยๆ อย่างไม่เข้าใจ วันนี้ผมแค่มาเตรียมที่นี่เฉยๆ แล้วกะว่าจะโทรไปขอให้คุณฮิบาริมาหาสักหน่อยก่อนจะเที่ยงคืน แต่นี่คุณฮิบาริมาแบบนี้ทำเอาผมตกใจแทบแย่

            หมายความว่านายไม่ได้ทำ??

            เอ๋ ทำอะไรเหรอครับ? ใบหน้าหวานมุ่นลงเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ หรือว่ารีบอร์นคิดจะทำอะไรอีกแล้ว??

            ฉันก็กำลังสงสัยอยู่ ฮิบาริตอบกลับพร้อมกับขยี้หัวร่างบาง

            ผมมาจัดห้องให้คุณฮิบาริน่ะครับ ตั้งใจว่าจะเป็นคนแรกที่พูดคำว่า สุขสันต์วันเกิด กับคุณฮิบาริให้ได้น่ะครับ ใบหน้าหวานมีประกายแจ่มใสแต่ก็ติดจะมีหยาดเหงื่อจากการที่จัดห้องทั้งห้องคนเดียวทั้งวัน อ๊ะ เดี๋ยวผมไปเปิดไฟนะครับ

            พรึ่บ

            ร่างสูงหรี่ตาหน่อยๆ เพราะว่าปรับแสงไม่ทันก่อนจะเปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างเพราะการตกแต่งห้องขนาดนี้คนเดียวถือว่ายากมากเพราะมีทั้งสายรุ้ง และอะไรอีกสารพัด (บรรยายไม่เป็นอ่ะ จิตนาการเอาเองเน้อ)

            สึนะ เสียงเรียกดังขึ้นทำให้ร่างบางหันไปหาก่อนที่อีกฝ่ายจะแย้งเค้กที่อยู่ในมือบางไปวางไว้บนโต๊ะ

            ร่างสูงพึ่งสังเกตว่าห้องนี้คือห้องรับแขกของเขาเองนั่นแหละ

            พรึ่บ

            อ๊ะ ร่างบางร้องขึ้นเพราะมือหนาของคนตรงหน้ากดปิดสวิตช์ไฟให้มืดลง คะ... คุณฮิบาริ

            ชอบใจนะ มือหนาตวัดเอาร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับไปบนริมฝีปากหอมนุ่มของอีกฝ่าย

            อื้อ~” ร่างบางครางอือในลำคอเพราะความหอมหวานจากรสจูบและลิ้นร้อนของอีกฝ่ายที่เข้ามาเกี่ยวกระวัดภายในโพรงปากของสึนะอย่างเร่าร้อน พะ... พอก่อนครับ

            นายทำให้ฉันเป็นห่วง

            ขอโทษครับ

            นายทำให้ฉันต้องเหนื่อยตามหานายแทบทั้งเมือง

            ขอโทษครับ

            นายทำให้ฉันต้องโดนพวกรีบอร์นหลอก

            ขอโทษครับ

            นาย... ทำให้ฉันรักนายมากขึ้นไปอีก

            ขอโท... ห๊า~! อะไรนะครับ ใบหน้าหวานแดงเถือกถามกลับอย่างไม่แน่ใจ มือไม้สั่นระริกวางไม่ถูกพาลเกะกะไปหมด ดวงตาสวยเสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตาด้วย

            ฉันบอกว่า...

            หวาๆๆๆ ไม่เอานะครับ อย่าพูดนะครับ

            เมื่อกี้ฉันบอกไปว่า...

            พอเถอะครับ คุณฮิบาริ มือบางปิดหน้าตัวเองอย่างทนไม่ไหว เขินจะตายอยู่แล้ว

      ฉันรักนาย

      เป็นไงมั่งเอ่ย???
      ช่วยเม้นบอก ให้กำลังใจกันหน่อยน้า

      +_+ แต่ถ้าจะให้ดีก็แวะไปอ่านเรื่องอื่นของเรามั่งน้า~


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×